จากสถานการณ์การระบาดของไวรัส COVID – 19 ที่แพร่กระจายในปัจจุบันนั้น ทำให้วิถีชีวิตของคนในสังคมเปลี่ยนไปเป็นแบบ New Normal ซึ่งมีผลต่อคนทุกวัน วัยทำงานก็เช่นกัน หลายองค์กรได้ปรับเปลี่ยนวิธีการทำงาน ด้วยการ ‘ Work from Home ’ หรือช่วงทำงานที่บ้าน

การทำงานที่บ้าน ก็มีข้อดีในหลาย ๆ ด้าน เช่น ให้เราทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและมีเวลาให้ครอบครัวและตนเองมากขึ้น ลดค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ของบริษัท ประหยัดเวลาและไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการเดินทาง มีสุขภาพจิตที่ดีขึ้นเพราะไม่ต้องเผชิญปัญหารถติด ทั้งนายจ้าง รวมถึงพนักงานคงต้องวางแผน และปรับตัวกันพอสมควรกับการทำงานรูปแบบนี้ เพราะถือว่าเป็นอะไรที่ใหม่สำหรับประเทศไทย อย่างไรก็ตามวันนี้เรามีเทคนิคที่เป็นประโยชน์ต่อการปฏิบัติงานจากที่บ้าน เพื่อช่วยให้คุณปรับตัวได้ไวขึ้น

เทคนิค Work from home

1. จัดลำดับความสำคัญของงาน มี To do list และกำหนด Deadline ที่ชัดเจน

ก่อนเริ่มงานให้ท่านเขียนรายการของงานทั้งหมดออกมา และวางแผนว่าจะทำอะไรก่อนหลัง และใส่ลงในตารางเวลาคร่าวๆ และระหว่างวันให้บันทึกว่าช่วงไหนท่านทำอะไรบ้าง เพื่อจะได้กลับมาตรวจสอบได้ว่าใช้เวลาคุณภาพหรือไม่ และควรปรับอย่างไร

ในการทำงานที่บ้าน ควรทำ To do list สำหรับสิ่งที่ต้องทำในแต่ละวันเพื่อวางแผนว่าจะทำอะไรก่อนหลัง และทำให้มั่นใจว่าเราสามารถทำงานได้ครบและเสร็จทันตามกำหนด เป็นการสร้างวินัยในการทำงานและอำนวยความสะดวกให้หัวหน้าและเพื่อนร่วมงานที่ต้องรับงานจากเราไปทำต่อ

Work from home


2. จัดเตรียมสถานที่ให้พร้อม

จัดพื้นที่และอุปกรณ์หรือสิ่งที่เกี่ยวข้องกับงานให้พร้อม เช่น คอมพิวเตอร์ สมุดโน้ต ปากกา จะช่วยให้สามารถโฟกัสกับงานได้เต็มที่ หลีกเลี่ยงการนั่งทำงานในบริเวณที่มีคนอื่นอยู่ เพราะคุณอาจจะถูกรบกวนจากคนในครอบครัว เด็กหรือสัตว์เลี้ยง เลือกโต๊ะและเก้าอี้ให้เหมาะกับสรีระ ที่สามารถนั่งทำงานได้ตลอดทั้งวันโดยไม่ส่งผลเสียต่อสุขภาพ

3. กำหนดเวลาพักผ่อนให้ตัวเอง

ก็ต้องมีการบาลานซ์ชีวิตไม่ให้ทำงานหนักจนเกินไป หากเราเป็นคนที่ไม่ค่อยมีเวลาพักผ่อน เพราะคิดว่าเดี๋ยวค่อยพัก จนเวลางานก็กินเวลาพักเราไปเรียบร้อย หรือคิดว่าจะพักแต่ก็ดันลืมเพราะกำลังสนุกกับการทำงาน

ดังนั้น เราลองมาล็อกตารางสำหรับการพักผ่อนไปเลยค่ะ ว่าเวลานี้เราจะนอนพัก เวลานี้เราจะดูหนัง เวลานี้เราจะออกกำลังกาย แล้วใส่ลิสต์นี้ลงไปในตางรางแล้วตั้งแจ้งเตือนไว้ ก็จะช่วยเตือนความจำให้เราตระหนักรู้ว่า เวลานี้ควรปล่อยวางจากงานแล้วมาพักผ่อนกันดีกว่า และปิดการแจ้งเตือนเรื่องงานนอกเวลางาน เพื่อไม่ให้เป็นการรบกวน และบังคับตัวเองไม่ให้จดจ่อกับงานมากเกินไป ทุกๆ 50-60 นาที แนะนำให้ลุกมายืดเส้นยืดสาย ดื่มน้ำ เข้าห้องน้ำบ้าง เพราะร่างกายเราสามารถจดจ่ออย่างมีประสิทธิภาพได้เต็มที่ประมาณ 50 นาที

4. ปรับปรุงการประชุมให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

ปัญหาหนึ่งที่เจอกันในการทำงานแบบ Work from Home ก็คือปัญหาการสื่อสาร เพราะเราทำงานกันคนละที่ ไม่ได้อยู่รวมกันในออฟฟิศเหมือนเดิมแล้ว เลยทำให้เราต้องคุยกันมากขึ้น ประชุมกันผ่านทางออนไลน์บ้างในเรื่องที่สำคัญ กับบุคคลที่เกี่ยวข้องกับงานนั้นๆ จัดตารางประชุมให้ชัดเจนล่วงหน้า โดยอาจจะเป็นวิธีประชุมสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง รวมทุกประเด็นคุยกันในที่ประชุมทีเดียว

ปัจจุบันเราสามารถประชุมกันผ่านทางออนไลน์กันได้ ซึ่งมีตัวเลือกให้เลือกใช้กันมากมายทั้งแบบฟรีและมีค่าใช้จ่าย เช่น Google Hangouts, GoToMeeting, WebEx, Skype, Zoom หรือจะวิดีโอคอลล์ผ่าน Line ก็สามารถทำได้ง่าย ๆ 

5. รักษาสมดุลงานและชีวิต (Work Life Balance)

นอกจากทำงานแล้ว เราก็จัดสรรเวลาให้กับครอบครัว ดูแลสุขภาพ ออกกำลังกาย ทำงานอดิเรกที่ชอบ โทรคุยกับเพื่อนบ้าง เพราะชีวิตมีหลายองค์ประกอบ ควรใส่ใจด้านอื่นๆ เพื่อให้กายแข็งแรงและใจเรามีความสุขด้วย เราจึงสามารถใช้ชีวิตอย่างมีความหมายและมีความสุขในทุกๆ วัน

Work from home

Jobshere