ในช่วงโควิด–19 ที่เป็นโรคระบาดแห่งยุค ส่งผลกระทบต่อทุกคน ยิ่งในหมู่ พนักงานบริษัทแล้ว หลาย ๆ คนถูกเลิกจ้าง ส่วนบางคนอาจจะโชคดีขึ้นมาหน่อย คือ ไม่ถูกเลิกจ้าง แต่ก็ถูกลดเงินเดือน รายรับลดลง แต่ว่ารายจ่ายยังมีเท่าเดิม ทำให้หลาย ๆ คนต้องมาปรับวิธีบริหารเงินกันยกใหญ่ เพื่อแก้ไขปัญหาเงินไม่พอใช้ มาดู 5 วิธีปรับตัว หากโดนลดเงินเดือนช่วงโควิด

วิธีปรับตัว หากโดนลดเงินเดือนช่วงโควิด

จดบัญชีรายรับ – รายจ่าย

            มาเริ่มกันที่การจัดระเบียบการเงิน ด้วยการติดตามพฤติกรรมการใช้เงินในแต่ละวันของเราจากการจดบัญชีรายรับ – รายจ่าย ซึ่งจะทำให้เราเห็นเส้นทางการเงินของตัวเอง ว่าเราไม่เงินเข้าเท่าไหร่ จากทางไหนบ้าง และมีเงินไหลออกเท่าไหร่ เราใช้เงินไปกับอะไร เมื่อจดรายรับ – รายจ่ายของแต่ละวันแล้ว ก็อย่าลืมสรุปยอดรวมของแต่ละเดือนด้วย ว่าเราใช้เงินไปกับเรื่องอะไรมากที่สุด อาจจะเป็นตามหมวดหมู่ เช่น ค่าอาหาร ค่าเสื้อผ้า ค่าสังสรรค์ ค่างานอดิเรก เป็นต้น ลดรายจ่ายที่ไม่จำเป็น

           หลักจากที่เราจดบัญชีรายรับ – รายจ่ายแล้ว ก็มาสำรวจภาพรวมการใช้เงินของตัวเอง มาดูว่าเรื่องไหนเป็นเรื่องจำเป็น และเรื่องไหนไม่จำเป็น พอจะลดรายจ่ายในส่วนไหนได้บ้าง วางแผนการใช้เงินให้ดีกว่าเดิม เช่น ของชิ้นนี้จำเป็น แต่สามารถเลื่อนออกไปซื้อเดือนหน้าได้มั้ย เพราะเดือนนี้รายจ่ายเยอะแล้ว ซึ่งวิธีนี้นอกจากจะทำให้เราสามารถตัดรายจ่ายที่ไม่จำเป็นออกไปได้แล้ว ยังช่วยให้เรามีสติกับการใช้จ่ายในแต่ละครั้งของเรา เป็นการสร้างวินัยในการใช้จ่ายให้กับตัวเองอีกทางหนึ่ง ขอประนอมหนี้กับธนาคาร

วิธีปรับตัว หากโดนลดเงินเดือนช่วงโควิด

           นอกจากรายจ่ายในแต่วัน บางคนยังมี Fixed Cost ที่เป็นหนี้ธนาคารหรือสถาบันการเงิน ที่ต้องจ่ายในแต่ละเดือน เช่น ค่าผ่อนบ้าน ผ่อนคอนโด ผ่อนรถ หรือแม้กระทั่งหนี้บัตรเครดิต ซึ่งถ้าลองเอามานั่งคำนวณดูแล้ว จ่ายไม่ไหวแน่ ๆ เพราะถูกลดเงินเดือน รายรับไม่เข้าเลย ก็สามารถไปขอเจรจาประนอมหนี้กับธนาคารหรือสถาบันการเงินที่เป็นเจ้าหนี้เราได้ เพราะแต่ละที่จะมีนโยบายที่ช่วยเหลือลูกหนี้ในภาวะวิกฤตแบบนี้ เช่น การพักชำระหนี้ การปรับลดอัตราดอกเบี้ย  หรือขยายระยะเวลาผ่อนชำระหนี้ออกไป หรือเราจะเลือกวิธีการรีไฟแนนซ์กับธนาคารหรือสถาบันการเงินที่ให้เงื่อนไขที่ดีกว่าก็ได้ ไม่ว่าจะเลือกทางไหน ก็ควรศึกษาข้อมูลและเงื่อนไขให้ละเอียดก่อนตัดสินใจทำสัญญา เพราะบางทีอาจจะได้ไม่คุ้มเสีย  ปรับการลงทุน

           บางคนอาจจะมีรายจ่ายในหมวดหมู่ของการลงทุนด้วย จริงอยู่ที่การลงทุนถือเป็นการออมประเภทหนึ่ง แต่ทุกการลงทุนมีความเสี่ยง ยิ่งในภาวะโควิด – 19 ที่ราคาหุ้นผันผวนอย่างหนัก จนทำให้เงินลงทุนของเราอาจจะถูกลดมูลค่าลงอย่างน่าใจหายในชั่วข้ามคืน และถ้าการติดตามข่าวตลาดทุนเป็นการเพิ่มความเครียดให้คุณมากกว่าเดิม จากที่ก็เครียดจากการถูกลดเงินเดือนมาแล้ว แนะนำให้ลองปรับพอร์ตการลงทุนใหม่ โดยอาจจะลงทุนในหุ้นหรือกองทุนที่มีความเสี่ยงต่ำ หรือมีความคล่องตัวสูง เพื่อเพิ่มสภาพคล่องให้กับตัวเอง เผื่อมีเหตุการณ์ที่ต้องใช้เงินแบบไม่คาดฝัน เพิ่มช่องทางการหารายได้

          หากคุณโดนลดเงินเดือนช่วงโควิด แปลว่าช่องทางรายได้หลักของคุณถูกปรับลดลง ก็ต้องหารายได้เสริมเพื่อที่จะได้เพียงพอต่อรายจ่ายที่มีอยู่ อาจจะเริ่มจากการเปลี่ยนงานอดิเรกของคุณให้กลายมาเป็นรายได้ เช่น ทำขนมขาย หรือรีวิวอุปกรณ์กีฬา ถ้าคุณเป็นคนชอบออกกำลังกาย เป็นต้น แต่ถ้าวิธีที่เสนอไปยังไม่ใช่ อาจจะเริ่มจากการนำส่งของที่มีอยู่แล้วมาแปลงเป็นเงินก็ได้ เช่น ขายเสื้อผ้า ข้าวของที่ไม่ใช้แล้ว ถ้าคุณเป็นนักช็อปตัวยง ลองเปลี่ยนมาเป็นนักขาย (ของมือ2) ดูก็ได้ บางทีคุณอาจจะมีอาชีพเสริมอาชีพใหม่เป็นนักขายมือทองก็ได้ 

          ถึงเราจะมีเงินน้อยลง ต้องใช้สอยประหยัด แต่เราจะอยู่รอดปลอดภัยผ่านโควิด – 19 ไปได้แน่ ๆ หากเรามีวินัยในการใช้จ่าย และวางแผนการใช้เงินให้ดี ที่สำคัญต้องไม่ลืมที่จะมองหาโอกาสใหม่ ๆ ในชีวิต อาจจะเป็นการหางานใหม่สำรองไว้