สิ่งที่คุณต้องคิดในขั้นนี้ ก่อนที่จะเริ่ม ก็คือ HR หรือบริษัท นั้นชอบจะไปอยู่ที่ไหน หรือก็คือ สมัครงาน ได้ทางช่องทางไหนบ้าง

1. สมัครงาน ตรงกับบริษัท

หลายๆ บริษัทมีการประกาศรับสมัครงานบนช่องทางของตัวเองอย่างเช่นเว็บไซต์หรือบนโซเชียลมีเดีย

มองหา Section ที่เขียน Career, Jobs หรือ We are hiring เพื่อดูรายละเอียดได้

ข้อดีของวิธีนี้คือคุณจะรู้ได้เลยว่าบริษัทต้องการให้คุณสมัครงานกับพวกเขาด้วยวิธีไหน (ซึ่งจะเพิ่มโอกาสในการถูกเชิญสัมภาษณ์ให้กับคุณได้) แต่ข้อด้อยคืออาจจะทำให้คุณใช้เวลาเขียนและปรับใบสมัครให้เหมาะกับงานนั้นๆ ค่อนข้างมากเพราะบริษัทแต่ละบริษัทก็มีความต้องการไม่เหมือนกัน

บริษัทของผมก็กำลังตามหาเพื่อนร่วมงานอยู่หลายคน เข้าไปดูในเว็บไซต์ได้

2. สมัครงานในมหาวิทยาลัย

หลายๆ บริษัทจะมีการไปออกบูธตามมหาวิทยาลัยต่างๆ ซึ่งนั่นอาจจะหมายรวมถึงมหาวิทยาลัยของคุณด้วย เพราะฉะนั้นคอยติดตามข่าวหรือประกาศเกี่ยวกับการออกบูธรับสมัครงานต่างๆ ให้ดี เพราะนั่นเป็นหนึ่งในวิธีการสมัครงานที่ Resume ของคุณจะถูกส่งไปให้กับ HR ได้เร็วที่สุด

3. Jobboard

Jobboard ถือเป็นช่องทางการโปรโมตตัวเองที่ง่ายที่สุดช่องทางนึง เพียงแค่คุณเข้าใจสร้างโปรไฟล์ไว้ใน Platform นั้นๆ

เช่น Platform อย่าง Jobsdb มีฟีเจอร์ที่ให้บริษัทสามารถเห็น Qualification ของผู้สมัครงานแบบคร่าวๆ และสามารถส่ง Invitation ให้เข้ามาสมัครงานได้ เพราะฉะนั้นถ้าคุณเขียนโปรโมตตัวเองได้ดี โอกาสที่จะมีคน Invite มาก็จะมีมากขึ้นไปด้วย

นอกจาก Jobsdb แล้ว Jobboard Platform อื่นๆ ก็ยังมีอีกหลายอันเช่น Jobtopgun Workventure Jobthai และ Jobbkk เป็นต้น

4. Referral

Referral หรือการให้คนรู้จักแนะนำช่วยบอกต่อจะทำให้คุณมีโอกาสได้งานมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเพื่อน พี่ น้อง หรือญาติๆ การพูดคุยกับคนในวงของคุณ จะทำให้คุณเข้าถึงโอกาสในการได้งานมากยิ่งขึ้น

คำว่า Referral ในที่นี้อาจจะไม่จำเป็นต้องเป็น “คน” เสมอไป แต่สามารถเป็น “ค่าย” “งานอีเวนต์” หรือ “กิจกรรม” ต่างๆ ที่คุณเคยทำหรือเคยไปก็ได้

คำแนะนำ คื อถ้าคุณพอจะรู้ตัวเองตั้งแต่ตอนอยู่มหาวิทยาลัยแล้วว่าชอบอะไร สนใจอะไร ลองหาค่าย งานอีเวนต์ หรือกิจกรรมนอกรั้วมหาวิทยาลัยทำเพิ่มเติมดู เพราะนั่นจะเป็นการเปิดโอกาสให้คุณได้มากอย่างที่คุณคาดไม่ถึงเลยล่ะ

5. Headhunter หรือ Recruitment Agency

หลักการทำงานของ Headhunter หรือ Recruitment Agency คือคุณไปฝากโปรไฟล์ไว้กับพวกเขา และพวกเขาจะไปหางานจากบริษัทที่น่าจะเหมาะกับคุณสักหลายบริษัทมาแล้วให้คุณไปสัมภาษณ์ โดยที่คุณจะไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายอะไรให้กับ Headhunter หรือ Recruitment Agency นั้นๆ เลย พวกเขาจะได้ค่าคอมมิชชั่นเป็นรูปแบบของ % เงินเดือนทั้งปีของคุณ (โดยปกติที่เห็นก็คือประมาณ 15-22%) ในกรณีที่คุณผ่านการทดลองงาน

ข้อดีของวิธีนี้คือ Headhunter หรือ Recruitment Agency จะทำงานอย่างเต็มที่เพื่อที่จะทำให้คุณได้งานโดยเร็วที่สุดและค่าตอบแทนเยอะที่สุด

6. Social Media

โซเชียลมีเดียก็ถือเป็นช่องทางที่ทรงพลังถ้าใช้ให้เป็น โดยช่องทางที่ผมอยากจะแนะนำมากๆ มีอยู่ 2 ช่องทาง

1. Facebook Group

ปัจจุบันนี้บริษัทต่างเข้าไปประกาศหางานตาม Facebook Group ต่างๆ มากมาย

คุณสามารถเข้าไปติดตามข่าวสารตลอดจนดู Feed จากกรุ๊ปต่างๆ เหล่านี้ได้

2. LinkedIn

LinkedIn เป็น Social Network สำหรับมืออาชีพ ซึ่งการใช้ LinkedIn นั้นถือเป็นส่วนหนึ่งของแผนการหางานในเชิงรับ

สิ่งที่คุณควรทำคือการมีตัวตนบน LinkedIn เขียนโปรไฟล์ให้น่าสนใจ แชร์บทความหรือความรู้ที่เกี่ยวข้อง เดี๋ยวจะมีคนติดต่อเข้ามา

ผมแนะนำว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่คุณแชร์บน LinkedIn ควรจะเป็นภาษาอังกฤษทั้งหมดครับ

ถ้าคุณอยากได้งานจากบริษัทข้ามชาติ LinkedIn เป็นสิ่งที่คุณควรมีและควรทำมันให้ดี

Jobshere